เมนู

ภัทราวุธปัญหาที่ 12


ว่าด้วยความติดข้องของสัตว์


[436] ภัทราวุธมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าพระองค์ขอทูลวิงวอนพระองค์ ผู้
ทรงละอาลัย ตัดตัณหาเสียได้ ไม่หวั่นไหว
ละความเพลิดเพลิน ข้ามห้วงน้ำคือกิเลสได้
แล้วพ้นวิเศษแล้ว ละธรรมเครื่องให้ดำริ มี
พระปัญญาดี
ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียร ชนใน
ชนบทต่าง ๆ ประสงค์จะฟังพระดำรัสของ
พระองค์ มาพร้อมกันแล้วจากชนบททั้ง
หลาย ได้ฟังพระดำรัสของพระองค์ผู้ประ-
เสริฐแล้ว จักกลับไปจากที่นี้ ขอพระองค์
จงตรัสพยากรณ์แก่ชนในชนบทต่าง ๆ เหล่า
นั้นให้สำเร็จประโยชน์เถิด เพราะธรรมนี้
พระองค์ทรงรู้แจ้งแล้วด้วยประการนั้น.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า ดูก่อนภัทราวุธะ
หมู่ชนควรจะนำเสียซึ่งตัณหา เป็น
เครื่องถือมั่นทั้งปวงในส่วนเบื้องบน เบื้อง

ต่ำ ในส่วนเบื้องขวางคือในท่ามกลางให้
สิ้นเชิง เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมถือมั่น
สิ่งใด ๆ ในโลก มารย่อมติดตามสัตว์ได้
เพราะสิ่งนั้นแหละ.
เพราะเหตุนั้น ภิกษุเมื่อรู้ชัดอยู่ มา
เล็งเห็นหมู่สัตว์ ผู้ติดข้องอยู่แล้วในวัฏฏะ
อันเป็นบ่วงแห่งมารนี้ว่า เป็นหมู่สัตว์ติด
ข้องอยู่แล้วเพราะการถือมั่นดังนี้ พึงเป็นผู้
มีสติ ไม่ถือมั่นเครื่องกังวลในโลกทั้งปวง.

จบภัทราววุธมาณวกปัญหาที่ 12

อรรถกถาภัทราวุธสูตร1ที่ 12


ภัทราวุธสูตร

มีคำเริ่มต้นว่า โอกญฺชหํ ดังนี้เป็นต้น.
ในบทเหล่านัน บทว่า โอกญฺชหํ คือผู้ละอาลัย. บทว่า ตณฺหจฺฉิทํ
ผู้ตัดตัณหาเสียได้ คือตัดหมู่ตัณหาทั้ง 6. บทว่า อเนชํ ผู้ไม่หวั่นไหว คือ
ไม่มีความทะเยอทะยานในโลกธรรมทั้งหลาย. บทว่า นนฺทิญฺชหํ ผู้ละความ
เพลิดเพลิน คือละความปรารถนามีรูปในอนาคตเป็นต้น. จริงอยู่ภัทราวุธ-
มาณพกล่าวถึงตัณหาอย่างเดียวเท่านั้นในที่นี้โดยประการต่าง ๆ เพื่อสรรเสริญ
พระผู้มีพระภาคเจ้าเท่านั้น. บทว่า กปฺปญฺชหํ ผู้ละธรรมเครื่องให้ดำริคือ
1. บาลีเป็น ภัทราวุธปัญหา.